การปรับแต่งระบบงาน JHCIS ให้เร็วขึ้น ทำงานได้มีเสถียรภาพมากขึ้น ต้องประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ๆ ที่ควรคำนึงถึง
สำหรับระบบงาน JHCIS ซึ่งใช้งานในหน่วยงานระดับสถานีอนามัย ก็พบข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น สถานีอนามัยส่วนใหญ่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows XP ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อก่ารใช้งานแบบเดสก์ทอปหรือแบบเวิร์คสเตชั่น เมื่อนำมาประยุคใช้เป็นเครื่องแม่ข่าย (ให้บริการ MySQL) ก็พบข้อจำกัดพอสำควร
ข้อแนะนำต่อไปนี้ ก็ขอเน้นไปที่ระบบปฏิบัติการ Windows XP เป็นหลัก แต่ก็ยังนำไปประยุกต์กับระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น Windows Server หรือ Linux ตระกูลต่างๆ ได้ด้วย


สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows XP การปรับแต่งค่าต่อไปนี้ จะช่วยให้ระบบงาน JHCIS ทำงานได้ต่อเนื่องได้ดียิ่งขึ้น ลดปัญหาการหยุดของโปรแกรมได้
บรรทัด 54: max_connections=500 แก้เป็น max_connections=100
บรรทัด 72: table_cache=1024 แก้เป็น table_cache=969
หากเครื่องมีหน่วยความจำ (RAM) ประมาณ 1024MB หรือ 1GB แนะนำให้ครับค่านี้เพิ่มเติมบรรทัด 175: innodb_buffer_pool_size=64M แก้เป็น innodb_buffer_pool_size=256M
หลังจากนั้นให้รีสตาร์ต MySQL เพื่อให้อ่านค่าคอนฟิกใหม่ โดยคลิกเมนู
Start > All Programs > MySQL-JHCIS > MySQL Stop และ Start > All Programs > MySQL-JHCIS > MySQL Start ตามลำดับ

วิธีการกำหนดและตัวอย่างหน้าจอการปรับค่า RAM ที่ Java Control Panel นี้ อยู่ในคู่มือ JHCIS บทการติดตั้งโปรแกรม (ดาวน์โหลดได้ลิงค์ในเว็บบอร์ด JHCIS นี้)
หลังจากปรับแต่งหน่วยความจำสำหรับ JAVA แล้วก็ไม่ต้อง restart เครื่องใดๆ เลย แค่เปิดเข้าโปรแกรม JHCIS ใหม่เท่านั้นเอง
ได้ผลดีขึ้นแน่นอน
อ้างอิง
http://webboard.moph.go.th/board/viewtopic.php?f=14&t=1071
แสดงความคิดเห็น